น้ำหนักขึ้น อ้วนเร็วผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

in บทความเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย

          น้ำหนักขึ้นเท่าไหร่ ถือว่าผิดปกติ หากคุณเพิ่มขึ้นมากกว่า 5-10% ของน้ำหนักเดิมของเราภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะเพิ่มน้ำหนักเลย นั่นหมายถึงอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณได้ เช่น หากเคยมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม หากคุณน้ำหนักเพิ่มถึง 63-66 กิโลกรัม ภายใน 6 เดือน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายโดยละเอียด เพราะอาการน้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็ว อาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคอันตรายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน ไทรอยด์ ต่อมน้ำเหลือง ตับ ไต เป็นต้น

มาดูสาเหตุ ที่ทำให้อ้วนเร็วกันเลย…….

1. ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ดี

          อย่าเพิ่งค่อนขอดใครว่าอ้วน กินเยอะอย่างเดียว เพราะที่เขาอวบขึ้นมาอย่างหนัก อาจจะเป็นเพราะต่อมไทรอยด์ไม่ค่อยทำงานก็ได้ ต่อมนี้จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานแต่ถ้าเกิดต่อมนี้ขี้เกียจขึ้นมาจะเรียก hypothyroidism พอร่างกายไม่ค่อยเผาผลาญตามปกติ  ก็จะน้ำหนักขึ้นThe National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases บอกว่าส่วนที่แย่ที่สุดของอาการนี้ก็คือจะค่อยๆ เป็นอย่างช้าๆ คนส่วนใหญ่จะไม่สังเกตจนกระทั่งถึงจุดที่ตัวจะแตกแล้ว ถึงคุมการกินหรือออกกำลัง น้ำหนักก็ลดยาก

ทำอย่างนี้สิ!: ไปพบคุณหมอเลย ถ้ารู้สึกว่าน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้กินเยอะ คุณหมอจะมีคำอธิบายกับยารักษามาให้ 

2. กินอาหารสุขภาพมากเกินไป

          อย่าเข้าใจผิดนะคะ ว่ากินอาหารสุขภาพทำให้น้ำหนักขึ้น แต่เราควรจะกินแบบพอเหมาะ ไม่ใช่ฉันมาสายธัญพืช จะกินเท่าไหร่ยังไงก็ไม่อ้วน  แต่ก็มีบางอย่างที่ต้องกินอย่างพอเหมาะ เช่น อโวคาโด ดาร์ดช็อกโกแลต ถั่ว ถ้ากินแบบไม่บันยะบันยัง ก็จะทำให้น้ำหนักขึ้นมาอย่างดาย

3. ไม่ยอมดื่มน้ำ

          การดื่มน้ำ 2 แก้วต่อมื้อจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีมาก เพราะน้ำจะช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกาย แล้วยังทำให้อิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอเราจะกินอาหารเติมเข้าไปแทน และร่างกายจะสั่งว่ากำลังขาดน้ำ เลยสั่งให้เก็บน้ำที่เหลืออยู่เอาไว้ เป็นหุ่นบวมน้ำ ร่างกายไหลเวียนไม่ดี

ทำอย่างนี้สิ! วิธีที่ดีที่สุดของการดื่มน้ำ ไม่ใช่ซัดโฮกเข้าไปทีเดียว แต่ให้จิบไปเรื่อยๆ ทั้งวันแทน

4. ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก

ขอบคุณภาพจาก : Facebook มึงอ้วน

          เชื่อว่าหลายๆ คนอาจเป็น ไม่อยากรับรู้ความเป็นจริงเลยไม่ชั่งน้ำหนักซะเลย ถ้าไม่รู้คือไม่เจ็บ ฮ่าๆๆ แต่ปล่อยๆ ไปรู้ตัวอีกทีตัวบานไปไกลเลย อย่างช่วงหน้าเทศกาลนี่เรานัดเพื่อนกินดะ บุฟเฟต์ ปิ้งย่าง ของกินจากกระเช้า ต้องระวังก่อนเอาอะไรเข้าปากของเราให้ดี

5. นอนดึก!

ขอบคุณภาพจาก : Woman lying in bed sleepless at night

          กินดี ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ๆๆๆ ติดซีรีส์จนนอนดึกเกือบทุกคืน มีการศึกษาบอกว่าจำนวนชั่วโมงที่เรานอนน้อยเกี่ยวกับค่า BMI หรือมวลร่างกายที่เพิ่มขึ้น ขนาดรอบเอวที่ขยายขึ้น เพราะว่าการอดนอนทำให้ฮอร์โมน ghrelin เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราหิวเพิ่มปริมาณมากขึ้น แล้วสมองยังสั่งให้เราอยากกินจั๊งค์ฟู้ดแบบรุนแรง ควบคุมปริมาณที่พอดีไม่ได้ด้วย โอ๊ยยยย

ทำอย่างนี้สิ! หลังจากนอนให้เพียงพอ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ประมาณ 7 ถึง 8 ชั่วโมง ความหิวและความอยากกินจะลดลง แคลอรี่เบิร์นได้ดีมากขึ้นด้วย

6. งานอย่างเครียด

          ข้อนี้อยากบอกว่าจริงมากกก แล้วก็เป็นเพราะฮอร์โมนคอร์ติโซลถูกปล่อยออกมาตอนที่เราเครียด ทำให้น้ำตาลกลูโคสในเลือดเพิ่มขึ้น อินซูลินที่จะออกมาย่อยก็เลยโดนกักไว้ เราก็ยิ่งหิวเลยทีนี้ พอกินเยอะเกิน น้ำตาลในเลือดมากเกินไปก็เลยกลายเป็นไขมันพอกอยู่ตามตัว โดยเฉพาะตรงพุง

7. ปวดตัวเลยไม่อยากออกกำลัง

          บางทีเราปวดไหล่ ปวดไหล่จากการทำงานมาเยอะๆ จะให้ไปออกกำลังก็รู้สึกไม่มีกำลังใจ แค่ไม่ได้เคลื่อนไหว ที่กินเข้าไปก็สะสมเป็นไขมันส่วนเกิน

          ทำอย่างนี้สิ! ยิ่งปวดกล้ามเนื้อ เรายิ่งต้องหาวิธียืดกล้ามเนื้อ stretching แต่ถ้าเจ็บจากการปวดตามข้อให้หากีฬาที่ไม่ค่อยเจอแรงกระแทก ว่ายน้ำนี่เหมาะมาก

8. กินโปรตีนไม่พอ

          ถ้าร่างกายได้รับโปรตีนไม่พอ ไม่ว่าจะเนื้อสัตว์ เต้าหู้ ฯลฯ ร่างกายเราจะไปย่อยกล้ามเนื้อ เอาสารอาหารมาใช้ กล้ามเนื้อที่น้อยลงก็แปลว่าระบบเมตาบอลิซึ่มช้าลงด้วย น้ำหนักเลยเพิ่มขึ้นตามมา

9. เพราะเราแก่ขึ้นไง!

          เมื่อไหร่แฮปปี้ เบิร์ดเดย์ตัวเองตอนอายุ 30 ปีแล้ว ให้เราระลึกไว้เลยว่ามวลกล้ามเนื้อจะลดลง ระบบเผาผลาญก็ช้าลง เห็นชัดๆ กินเท่าเดิมและเหมือนเดิมอย่างตอนเป็นเด็กสาว แต่ตอนนี้อวบขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่อยากคิดว่าถ้าอายุ 40-50 แค่หายใจก็คงอ้วนแล้ว (เว่อร์ไปน่ะ)

          ทำอย่างนี้สิ! ยังไงก็ต้องออกกำลังทั้งคาร์ดิโอและเล่นเวตสร้างกล้ามเนื้อ ถ้ามีกล้ามเนื้อแล้ว จะเผาผลาญอะไรก็ง่ายไปหมด

🔊🔊เคล็ดลับในการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

หลักการง่ายๆ มีเพียงแค่ลดอาหารที่ให้พลังงานเกินลง เช่น แป้งขาว น้ำตาล ไขมันจากสัตว์ เครื่องดื่ม และอาหารหวานๆ อาหารสำเร็ตรูป อาหารแปรรูปต่างๆ เป็นต้น จากนั้นเริ่มออกกำลังกายทั้งเล่นเวท และคาร์ดิโอครั้งละอย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ และพักผ่อนให้เพียงพอ นอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หากรักษาระดับน้ำหนักให้ค่อยๆ ลง 1 เดือนไม่เกิน 2 กิโลกรัมได้ ก็สามารถลดน้ำหนักช้าๆ แต่ปลอดภัยได้เรื่อยๆ


เราไม่จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักทุกวัน อาจจะ 3-4 วันครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้งก็ได้ เพื่อค่อยๆ เช็กน้ำหนักของตัวเองที่คงที่แล้ว (ใน 1 วันน้ำหนักของเราสามารถขึ้นหรือลงได้ ½ -1 กิโลกรัมอยู่แล้ว) และควรชั่งน้ำหนักเวลาเดิม วันเดิมของสัปดาห์ สวมชุดเดิม (ใส่ให้น้อยชิ้นที่สุด หรือไม่ใส่เสื้อผ้าก็ได้) บนเครื่องชั่งน้ำหนักตัวเดิม และวางเครื่องชั่งน้ำหนักที่เดิมทุกครั้ง (บางบนพื้นเรียบแข็ง ไม่วางบนผ้า หรือพรม เพราะค่าน้ำหนักอาจเคลื่อนได้

ขอบคุณรูปภาพหน้าปก : https://neversurrender.in.th/วิธีการรักษาหุ่น-ให้ยังสวย

ขอบคุณที่มาของบทความ : http://www.cleothailand.com/health/11

ใส่ความเห็น